-
ข้อกำหนดทั่วไป
หมายถึง การกล่าวโดยรวมถึงลักษณะของงาน
และข้อแนะนำที่ควรคำนึง
-
การแบ่งรายการของรายงาน หมายถึง
การจัดหมวดหมู่และชนิดของงาน
เพื่อ
ความเป็นระเบียบและตรวจสอบได้
-
หน่วยการวัด หมายถึง
การกำหนดหน่วยจากการวัดปริมาณงานในรายการ
ต่างๆ ให้เป็นแนวทางเดียวกัน
-
บัญชีแสดงปริมาณงานและราคาค่าก่อสร้าง (BILL OF QUANTITIES)
หมายถึง บัญชีรายการของงานในโครงการ
ซึ่งแสดงรายละเอียดของงาน
รวมทั้งปริมาณของงานที่เป็นส่วนของสัญญาของโครงการนั้นๆ
-
บัญชีแสดงปริมาณงานและราคาค่าก่อสร้าง จะต้องระบุปริมาณงาน
และสื่อถึงคุณภาพของงานที่จะทำการก่อสร้างที่ได้อธิบายไว้
ในข้อกำหนดอย่างถูกต้องและชัดเจน
สำหรับงานซึ่งยังไม่สามารถกำหนดปริมาณงานที่แน่นอนได้
จะต้องจัดรายการของงานนั้นเข้าไว้
ในรายการของบสำรองที่จัดเตรียมไว้
(Provisional Sum)
- การวัด (MEASUREMENT)ถ้ามิได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่น
การวัดปริมาณงานต่างๆ จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดซึ่งแสดงไว้ดังนี้
-
ขนาดของความยาวจะต้องให้ใกล้เคียงถึง 0.01
เมตร
ยกเว้นสำหรับความหนาของแผ่นพื้น ซึ่งจะต้องให้ใกล้เคียงถึง
0.005 เมตร
-
ขนาดของพื้นที่จะต้องวัดให้ใกล้เคียงถึง 0.01
ตารางเมตร
-
ขนาดของปริมาตรจะต้องวัดให้ใกล้เคียงถึง 0.01
ลูกบาศก์เมตร
-
ขนาดของน้ำหนักจะต้องวัดให้ใกล้เคียงถึง 0.1
กิโลกรัม
|
-
ในกรณีที่ไม่มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน แต่มีการระบุขนาดปริมาณงานในแนวทางการวัดปริมาณงานก่อสร้างออกเป็นตัวเลขที่แสดงถึงขอบเขตล่าง
(Lower Limit)
และขอบเขตบน (Upper Limit)
ให้ตีความหมายว่า
มากกว่าขอบเขตล่างและไม่เกินของเขตบน
-
งานซึ่งต้อดำเนินไปภายใต้สภาวะดังต่อไปนี้
ควรที่จะจัดเป็นรายการแยกจากรายการเดิม
- งานที่ต้องทำใต้น้ำ
-
งานที่ต้องทำในพื้นที่ที่เป็นโคลนเหลว(Liquid Mud)
-
งานที่ต้องทำภายใต้สภาวะดินฟ้าอากาศที่ชื้นและแฉะ
- งานที่ต้องทำภายใต้กระแสน้ำไหล
- งานที่ต้องทำ
บริเวณที่เป็นสิ่งปลูกสร้างเดิม
- งานที่ต้องทำแข่งกับเวลา
- งานที่มีระบบจราจรมาเกี่ยวข้อง
- งานที่มีข้อจำกัดทางด้านเวลา
เช่น การขึ้น ลงของน้ำ
|
- ในกรณีที่เป็นงานที่ต้องทำภายใต้กระแสน้ำไหล
จะต้องระบุไว้ให้ชัดเจนด้วยว่า เป็นแม่น้ำ ลำคลอง หรือน้ำทะเล
ค่าระดับน้ำเฉลี่ยสูงสุด และต่ำสุดเป็นเท่าไร
พร้อมทั้งระบุด้วยว่า
งานดังกล่าวได้รับความกระทบกระเทือนต่อสภาพการทำงาน
หรือต่อคุณภาพของงาน จากกระแสน้ำตลอดเวลา
หรือเพียงบางช่วงเวลาเท่านั้น
-
การคิดราคาของหน่วยงานแต่ละรายการถ้าไม่มีระบุไว้เป็นอย่างอื่น ให้รวมถึง
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวเนื่องกับรายการนั้นๆ เช่น
ค่าออกแบบ ค่าขนส่ง ค่าติดตั้ง ค่าดัดแปลง
ค่าบำรุงรักษา และค่ารื้อถอน
เป็นต้น
- หน่วยของการวัด
-
ค่าใช้จ่ายประเภทคงที่ ให้ระบุหน่วยเป็นเหมารวม(Lump
Sum)
-
ค่าใช้จ่ายที่เป็นสัดส่วนกับระยะเวลาก่อสร้าง ให้ใช้หน่วยเป็นเวลา
วัน เดือน หรือปี
-
ค่าใช้จ่ายที่เป็นสัดส่วนกับมูลค่างานตามสัญญาให้ระบุหน่วย
เป็นร้อยละของมูลค่างาน
|
|
-
ขอบเขตงานในราคาต่อหน่วย
หมายถึง
การกำหนดของงานหรือองค์ประกอบที่ต้องมีในงานที่ทำเพื่อความเข้าใจตรงกันในการตรวจวัดและตรวจรับงาน
และการกำหนดราคาต่อหน่วยปริมาณงาน
-
วิธีการวัด หมายถึง
การกำหนดแนวทางปฏิบัติในการวัดปริมาณงานให้มีขั้นตอนหรือวิธีการเดียวกัน
ซึ่งมีหลายวิธี
-
คำนวณปริมาณงานจากระยะที่ระบุในแบบก่อสร้าง
(Net)
-
คำนวณปริมาณงานจากระยะที่ระบุในแบบก่อสร้างบวกรวมค่าเผื่อ
(Gross)
-
ใช้ปริมาณงานเป็นสัดส่วนจากปริมาณอื่นที่สามารถคำนวณหา
ปริมาณงานได้สะดวกกว่า (Proportional)
-
ใช้การนับจำนวนที่ปรากฏตามแบบก่อสร้าง
(Count)
-
คำนวณปริมาณงานจากระยะที่ปรากฏจริงภายหลังจากการติดตั้ง
หรือก่อสร้างแล้วเสร็จ (As Built)
|
ทั้งนี้เลือกใช้วิธีการวัดอย่างเดียวกันสำหรับงานประเภทเดียวกัน
หรือในกรณีที่มีการวัดหลาวิธี ควรระบุถึงวิธีการวัดในแต่ละงานให้ชัดเจน
- การวัดปริมาณงาน
จะต้องวัดตามปริมาณที่ปรากฏในตำแหน่งตามแบบก่อสร้าง (Fixed in
Position)
- การระบุตัวเลขเพื่อแสดงมิติ (Dimension)
ให้แสดงความยาว ความกว้าง และความสูง หรือความลึก
หรือความหนาตามลำดับ ในกรณีที่เห็นว่าการแสดงขนาดตามลำดับดังกล่าว
ไม่เหมาะสม หรือก่อให้เกิดความคลุมเครือ อาจแสดงมิติในลักษณะอื่นได้
แต่ต้องชี้แจงประกอบให้ชัดเจน
- ในกรณีที่ไม่ได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่น
ในบัญชีแสดงปริมาณงานและราคาค่าก่อสร้าง หรือในแนวทางการวัดปริมาณงาน
จะต้องมีรายการดังต่อไปนี้ด้วย
- ค่าแรงงาน
และต้นทุนทั้งหมดเกี่ยวข้องกับคนงาน
- ค่าวัตถุดิบ
วัสดุและต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับวัตถุดิบ
รวมทั้งค่าขนส่ง การขนถ่าย การเก็บรักษา
-
ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ติดตั้ง และวิธีการประกอบวัสดุ
ให้อยู่ในตำแหน่งใช้งาน
- ค่าเครื่องจักร
และต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องจักรที่ใช้ทำงานนั้น
- การเสียเปล่าของวัตถุดิบ
- ค่าใช้จ่ายในส่วนของการดำเนินการ
และกำไร
- ค่าบำรุงรักษา และป้องกันชิ้นงาน
|
- ค่าใช้จ่ายทางอ้อมในการดำเนินการทั้งหมด
ให้ครอบคลุมช่วยเวลาต่างๆ ได้แก่
ช่วงสำรวจออกแบบ ,
ช่วงประกวดราคา,ช่วงเตรียมงานก่อสร้าง,ช่วงระหว่างการก่อสร้าง,ช่วงส่งมอบงาน,ช่วงเวลารับประกันผลงาน
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ให้รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ
ดังนี้
- ค่าเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับงานหมวดหนึ่งหมวดใด
โดยเฉพาะ เช่น เทาว์เวอร์เครน ลิฟท์ขนส่ง ปั๊มลม เป็นต้น
- ค่าธรรมเนียมต่างๆ
ทั้งในส่วนของหน่วยข้าราชการ และเอกชน
เช่นสถาบันการเงินต่างๆ
|
- การคิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
-
ให้คิดตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ยกเว้นค่าใช้จ่ายที่มีลักษณะเป็น
งบสำรองที่จัดเตรียมไว้ ให้ระบุอย่างชัดเจนว่าจะทำการวัดปริมาณงาน
ใหม่ตามที่ทำจริงในภายหลัง ด้วยความยินยอมของคู่สัญญาทั้งสอง
ฝ่าย
- ไม่รวมเงิน กำไร +
ค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับโครงการ
โดยตรง และ + ภาษีทุกชนิด
|
- การแบ่งรายการค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
- ค่าใช้จ่ายประเภทคงที่ หมายถึง
ค่าใช้จ่ายที่ระบุจำนวนไว้แน่นอน
และไม่เปลี่ยนแปลงจนสิ้นสุดอายุสัญญา โดยแบ่งย่อยตามรายการที่
เกิดขึ้นจริง เช่น
ค่าก่อสร้างและรื้อถอนอาคารสำรักงาน ที่พักคนงาน
รั้วชั่วคราว
ค่าธรรมเนียมในการจัดหาประปาและไฟฟ้าชั่วคราว เป็นต้น
- ค่าใช้จ่ายเป็นสัดส่วนกับระยะเวลาก่อสร้าง
เช่น ค่าใช้จ่ายใน
สำนักงานสนาม เงินเดือนของพนักงาน ค่าเช่าเครื่องจักร
ค่าเช่าพื้นที่ เป็นต้น
- ค่าใช้จ่ายเป็นสัดส่วนกับมูลค่างานตามสัญญา
เช่น ค่าใช้จ่าย
ในการทำประกันภัย ค่าธรรมเนียมสถาบันการเงิน และ
อากรต่างๆ เป็นต้น
-
ค่าใช้จ่ายที่เป็นงบสำรองที่จัดเตรียมไว้ (Provisional Sum)
|
|