Pay Volume
ข้อแตกต่างของการคิดปริมาตรงานดินเพื่อการจ่ายเงิน |
ในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับงานดินขุด ขน และ
บดอัดให้แน่น
ปริมาตรของงานดินในการคิดราคาในแต่ละขั้นตอน
ของการก่อสร้างจะไม่เท่ากันเพราะปริมาตรของดิน
จะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานะที่พิจารณา และ ตามชนิดของดิน
โดยปกติปริมาตรดินในงานก่อสร้างจะมีอยู่ 3 สถานะ คือ
Bank volume
หมายถึง ปริมาตรดินที่อยู่ในสภาพเดิมตามธรรมชาติ
การคิดปริมาตรดินแบบนี้
เหมาะสำหรับการคิดปริมาตรของบ่อน้ำ
หรือ ปริมาตรสระนำ
ว่าจะเก็บกักน้ำไว้ได้เท่าใด |
|
 |
Loose
volume
เป็นปริมาตรของดินหลวม
การคิดปริมาตรดินแบบนี้เหมาะสำหรับ
การคิดปริมาตรของดินที่รถบรรทุกจะต้องขนไปทิ้งยังที่ที่ต้องการ
ปริมาตรของดินหลวมจะมากกว่าปริมาตรของดินเดิมเสมอ |
Compact volume
เป็นปริมาตรของดินแน่น
การคิดปริมาตรดินแบบนี้เหมาะสำหรับการคิดปริมาตรของดิน
ที่จะต้องบดอัดให้ได้ตามแบบที่ต้องการ
และการคิดปริมาตรดินจากแบบก่อสร้าง
จะต้องเป็นปริมาตรดินที่บดอัดแล้วทั้งสิ้น
ปริมาตรของดินแน่นจะน้อยกว่าปริมาตรของดิน
ในขั้นตอนการขุด หรือ
Bank
และ Loose
เสมอ |
 |
ปริมาตรของดินที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อมีการขุด ขน
และ บดอัด จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับชนิด
และความชื้นที่อยู่ในดิน ค่าที่แน่นอนจะหาได้โดยการทดลองในห้อง
Lab Soil
ซึ่งจะสิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่าย
เพื่อให้การวางแผนการใช้เครื่องจักร และ การคิดปริมาตร หรือ
ปริมาณงานดิน สำหรับการตั้งงบประมาณเป็นไปโดยง่าย
และมีความถูกต้องใกล้เคียงความจริงมากที่สุด
KOMATSU
ได้แนะนำให้ใช้ค่าต่างๆตามตารางข้างล่าง |
ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างน้ำหนัก และ
ปริมาตร ของดินชนิดต่างๆที่พบบ่อย ค่า
Swell &
Shrinkage
 |
ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตรของดินชนิดต่างๆ เมื่ออยู่ในสถานะ
BANK
LOOSE COMPACT
 |
|
|